ถ้าใครที่ติดตามอ่าน "ลักษณะของ Pin Bar " แล้ว ‼️
ผมอยากให้เพื่อนๆลองเลื่อน Time Frame เล็ก ๆ อย่าง 5 นาที, 15 นาที หรือ 30 นาที มาเทรดใน Time Frame ระดับ Day ดูบ้างนะครับ 🤔
สาเหตุก็เพราะ แท่งเทียนที่เกิดระดับ Day มีน้ำหนักสำหรับใช้ในการตัดสินใจเทรดมากกว่า แท่งเทียนใน #TimeFrame ต่ำ ๆ ครับ
ดังนั้น จิตวิทยาของ Pin Bar Signal ที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ จะเป็นคำอธิบายการเกิด Pin Bar ในระดับ Day เป็นหลักครับ
รูปแบบนี้เป็นรูปแบบของการเกิด False-break ระหว่างวัน พูดง่าย ๆ คือ เป็นการ #Breakout หลอก นี่จึงเป็นเหตุที่ว่า "ทำไมกลยุทธ์การเทรดแบบ Trend-Following จึงทำกำไรได้ยากในตลาด Forex ⁉️"
เพราะ ในตลาด #Forex มีการเกิด False-Break เยอะมากครับ และ 1 ในนั้นก็คือ การเกิด Pin Bar Signal
ตัวอย่างเช่น: การเกิด Bullish Pin Bar 🔺 จะเกิดเมื่อมีแรงขายกดราคาอย่างต่อเนื่อง แต่ต่อมาก็มีแรงซื้อสวนกลับขึ้นมาจนแรงขายต้านไม่อยู่ ทำให้แรงซื้อชนะ และจบวันด้วยการเกิดแท่งเทียน Pin Bar ขึ้น (พูดง่าย ๆ ก็คือ กระทิงชนะหมี)
กลับกันใน Bearish Pin bar 🔻เพื่อจะให้เห็นภาพชัดเจน ดูจิตวิทยาการเกิด Bullish Pin Bar ได้ตามรูปประกอบเลยครับ
จากภาพ 🖼 ผมขออธิบายจิตวิทยาการเคลื่อนที่ของ Pin Bar โดยใช้ OHLC Movement ประกอบนะครับนี้ครับ จะได้เห็นภาพชัดเจน
จะเห็นว่า การเกิดแท่งเทียน Pin Bar จะเกิดได้ 2 แบบ ตามรูปครับ
โดยทั้ง 2 แบบ ราคาเปิด (#Open) กับ ราคาปิด (#Closed) จะอยู่จุดเดียวกัน ต่างกันที่ระหว่างวันจะวิ่งลงก่อนหรือวิ่งขึ้นก่อนเท่านั้น ‼️
แต่เราไม่สนใจตรงนี้ครับ สิ่งที่เราสนใจคือ เส้นสีแดงที่วิ่งลง จะเป็นเส้น Breakout คือ Breakout ระหว่างวัน ถามว่า Breakout อะไร ⁉️
:คำตอบก็คือ Breakout แนวรับไงครับ ‼️
ถ้าเทรดเดอร์คนไหนที่รู้จักแต่กลยุทธ์การเทรดแบบ Trend-Following อย่างเดียว บอกได้เลยครับว่า "คุณจะทำกำไรในตลาด Forex ยากละครับ" 😱😱😱
เพราะ คุณจะเปิด Sell Order ตรงจุดที่มัน Breakout เพราะ คิดว่ามันหลุดแนวรับจริง แต่ต่อมาเห็นไหมครับว่า ราคาพุ่งขึ้นแรงมาก สังเกตตรงเส้นสีเขียวตรงที่เขียนว่า Rebound (False-break) จุดนี้แหละครับ ที่ผมถึงบอกว่าทำไมมันยาก เพราะ มันไม่ได้ Breakout จริงไงครับ ‼️
ตรงเส้นสีเขียวนี่แหละครับ ที่ทำให้กลยุทธ์แบบ Trend-Following ใช้ไม่ได้ผล และโดน #StopLoss ไปโดยปริยาย จนสุดท้ายราคาปิดและเผยให้เห็นว่า เป็นแท่งเทียน Pin Bar ซึ่งก็คือ สัญญาณ Buy Order นั่นเอง ‼️
ผมขอไม่ยกตัวอย่างการเกิด Bearish Pin Bar นะครับ เพราะ ไม่งั้นบทความนี้จะยาวมาก ๆ เอาเป็นว่าเกิดเหมือนกับ Bullish Pin Bar แต่เปลี่ยนฝั่งกันเท่านั้นครับ
ไว้ต่อบทความหน้านะครับ 🔜 📚 อย่าลืมกดติดตามทุก Channel ของผมนะครับ 🙏
ผมอยากให้เพื่อนๆลองเลื่อน Time Frame เล็ก ๆ อย่าง 5 นาที, 15 นาที หรือ 30 นาที มาเทรดใน Time Frame ระดับ Day ดูบ้างนะครับ 🤔
สาเหตุก็เพราะ แท่งเทียนที่เกิดระดับ Day มีน้ำหนักสำหรับใช้ในการตัดสินใจเทรดมากกว่า แท่งเทียนใน #TimeFrame ต่ำ ๆ ครับ
ดังนั้น จิตวิทยาของ Pin Bar Signal ที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ จะเป็นคำอธิบายการเกิด Pin Bar ในระดับ Day เป็นหลักครับ
รูปแบบนี้เป็นรูปแบบของการเกิด False-break ระหว่างวัน พูดง่าย ๆ คือ เป็นการ #Breakout หลอก นี่จึงเป็นเหตุที่ว่า "ทำไมกลยุทธ์การเทรดแบบ Trend-Following จึงทำกำไรได้ยากในตลาด Forex ⁉️"
เพราะ ในตลาด #Forex มีการเกิด False-Break เยอะมากครับ และ 1 ในนั้นก็คือ การเกิด Pin Bar Signal
ตัวอย่างเช่น: การเกิด Bullish Pin Bar 🔺 จะเกิดเมื่อมีแรงขายกดราคาอย่างต่อเนื่อง แต่ต่อมาก็มีแรงซื้อสวนกลับขึ้นมาจนแรงขายต้านไม่อยู่ ทำให้แรงซื้อชนะ และจบวันด้วยการเกิดแท่งเทียน Pin Bar ขึ้น (พูดง่าย ๆ ก็คือ กระทิงชนะหมี)
กลับกันใน Bearish Pin bar 🔻เพื่อจะให้เห็นภาพชัดเจน ดูจิตวิทยาการเกิด Bullish Pin Bar ได้ตามรูปประกอบเลยครับ
จากภาพ 🖼 ผมขออธิบายจิตวิทยาการเคลื่อนที่ของ Pin Bar โดยใช้ OHLC Movement ประกอบนะครับนี้ครับ จะได้เห็นภาพชัดเจน
จะเห็นว่า การเกิดแท่งเทียน Pin Bar จะเกิดได้ 2 แบบ ตามรูปครับ
โดยทั้ง 2 แบบ ราคาเปิด (#Open) กับ ราคาปิด (#Closed) จะอยู่จุดเดียวกัน ต่างกันที่ระหว่างวันจะวิ่งลงก่อนหรือวิ่งขึ้นก่อนเท่านั้น ‼️
แต่เราไม่สนใจตรงนี้ครับ สิ่งที่เราสนใจคือ เส้นสีแดงที่วิ่งลง จะเป็นเส้น Breakout คือ Breakout ระหว่างวัน ถามว่า Breakout อะไร ⁉️
:คำตอบก็คือ Breakout แนวรับไงครับ ‼️
ถ้าเทรดเดอร์คนไหนที่รู้จักแต่กลยุทธ์การเทรดแบบ Trend-Following อย่างเดียว บอกได้เลยครับว่า "คุณจะทำกำไรในตลาด Forex ยากละครับ" 😱😱😱
เพราะ คุณจะเปิด Sell Order ตรงจุดที่มัน Breakout เพราะ คิดว่ามันหลุดแนวรับจริง แต่ต่อมาเห็นไหมครับว่า ราคาพุ่งขึ้นแรงมาก สังเกตตรงเส้นสีเขียวตรงที่เขียนว่า Rebound (False-break) จุดนี้แหละครับ ที่ผมถึงบอกว่าทำไมมันยาก เพราะ มันไม่ได้ Breakout จริงไงครับ ‼️
ตรงเส้นสีเขียวนี่แหละครับ ที่ทำให้กลยุทธ์แบบ Trend-Following ใช้ไม่ได้ผล และโดน #StopLoss ไปโดยปริยาย จนสุดท้ายราคาปิดและเผยให้เห็นว่า เป็นแท่งเทียน Pin Bar ซึ่งก็คือ สัญญาณ Buy Order นั่นเอง ‼️
ผมขอไม่ยกตัวอย่างการเกิด Bearish Pin Bar นะครับ เพราะ ไม่งั้นบทความนี้จะยาวมาก ๆ เอาเป็นว่าเกิดเหมือนกับ Bullish Pin Bar แต่เปลี่ยนฝั่งกันเท่านั้นครับ
ไว้ต่อบทความหน้านะครับ 🔜 📚 อย่าลืมกดติดตามทุก Channel ของผมนะครับ 🙏
ราคา Bitcoin เผชิญแนวต้านแข็งแกร่งที่ $11,000 หลังถูก Uniswap ขโมยซีน
ในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ราคาของ #Bitcoin ยังคงผันผวนอยู่ที่ระดับ $10,800-$11,000
หากดูกราฟราคาที่ระดับ 1 ชั่วโมง หรือ 4 ชั่วโมง จะแสดงให้เห็นว่าราคาของ Bitcoin นั้นกำลังเกิดการ #sideway และกรอบนั้นมันก็ค่อนข้างที่จะแคบลงมาเรื่อย ๆ
หากการ #breakout กลายเป็นขาขึ้นนั้น นักเทรดสามารถคาดหวังแนวรับได้ที่ระดับ 10,550 ดอลลาร์ แต่ช่องว่างของราคาที่ $10,826 to $10,480 บนโปรไฟล์โวลลุมนั้นเผยให้เห็นว่าแนวรับที่ราคาอาจวิ่งไปหานั้นอยู่ที่ $10,490-$10,400
ดังนั้นนี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้อัตราความเสี่ยงและผลกำไรตอบแทนนั้นดูไม่ค่อยน่าสนใจต่อนักลงทุนเท่าไรนัก ‼️ และนั่นจึงทำให้พวกเขาแห่กันไปลงทุนในเหรียญ UNI ของ Uniswap กันมากกว่า
เนื่องจากว่าการพุ่งขึ้นของราคาที่สูงถึง 124% จากในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา
https://th.tradingview.com/chart/BTCUSD/gtys58Gp/
#siamblockchain
ในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ราคาของ #Bitcoin ยังคงผันผวนอยู่ที่ระดับ $10,800-$11,000
หากดูกราฟราคาที่ระดับ 1 ชั่วโมง หรือ 4 ชั่วโมง จะแสดงให้เห็นว่าราคาของ Bitcoin นั้นกำลังเกิดการ #sideway และกรอบนั้นมันก็ค่อนข้างที่จะแคบลงมาเรื่อย ๆ
หากการ #breakout กลายเป็นขาขึ้นนั้น นักเทรดสามารถคาดหวังแนวรับได้ที่ระดับ 10,550 ดอลลาร์ แต่ช่องว่างของราคาที่ $10,826 to $10,480 บนโปรไฟล์โวลลุมนั้นเผยให้เห็นว่าแนวรับที่ราคาอาจวิ่งไปหานั้นอยู่ที่ $10,490-$10,400
ดังนั้นนี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้อัตราความเสี่ยงและผลกำไรตอบแทนนั้นดูไม่ค่อยน่าสนใจต่อนักลงทุนเท่าไรนัก ‼️ และนั่นจึงทำให้พวกเขาแห่กันไปลงทุนในเหรียญ UNI ของ Uniswap กันมากกว่า
เนื่องจากว่าการพุ่งขึ้นของราคาที่สูงถึง 124% จากในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา
https://th.tradingview.com/chart/BTCUSD/gtys58Gp/
#siamblockchain
TradingView
ฺBTCUSD การวิเคราะห์ประจำวัน 19/9/2020 by TraderTan สำหรับ COINBASE:BTCUSD โดย Tradertanofficial
แนวรับแนวต้านที่สำคัญ
11403.26
แนวต้าน
11019.89
แนวรับ
10644.53
แนวรับ
9837.12
แนวรับ
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI เป็นกำลังจะเป็นขาลง
ราคามีการทดสอบแนว 11019.89 และมีแนวโน้มที่จะไม่ผ่าน แนวรับ และมีการลงมาพักตัวที่แนว 10644.53
ทางเลือกในการลงทุน…
11403.26
แนวต้าน
11019.89
แนวรับ
10644.53
แนวรับ
9837.12
แนวรับ
ความคิดเห็นในเชิงเทคนิค
RSI เป็นกำลังจะเป็นขาลง
ราคามีการทดสอบแนว 11019.89 และมีแนวโน้มที่จะไม่ผ่าน แนวรับ และมีการลงมาพักตัวที่แนว 10644.53
ทางเลือกในการลงทุน…
False Breakout หรือ Fake Breakout
หมายถึงการที่ราคาทะลุ (Breakout) ออกจากแนวรับ/ต้าน หรือ เส้นแนวโน้ม (Trend Line)
ซึ่งโดยปกติ มักจะเป็นสัญญาณให้ส่งคำสั่งซื้อหรือขาย เพราะกราฟราคาที่ได้ Breakout ออกมาแล้ว
มักจะเคลื่อนที่ต่อในแนวโน้มเดิม อย่างไรก็ตาม การ False Breakout คือกรณีที่ราคากลับสวนทางกับที่คาดไว้
แล้วหวนกลับเข้าแนวโน้มเดิม ส่งผลให้คำสั่งที่เปิดในช่วง False Breakout กลับขาดทุน
ชมคลิป : กดที่นี่
กดติดตามช่องใหม่ของผมด้วยนะครับ...ออกแนวแชร์ความรู้ วิชาการหน่อยๆนะครับ
ปล.กำลังเริ่มทำนะครับ ยังไม่โปรเฟสชั่นนอลมาก...จะพัฒนาไปเรื่อยๆครับ
หมายถึงการที่ราคาทะลุ (Breakout) ออกจากแนวรับ/ต้าน หรือ เส้นแนวโน้ม (Trend Line)
ซึ่งโดยปกติ มักจะเป็นสัญญาณให้ส่งคำสั่งซื้อหรือขาย เพราะกราฟราคาที่ได้ Breakout ออกมาแล้ว
มักจะเคลื่อนที่ต่อในแนวโน้มเดิม อย่างไรก็ตาม การ False Breakout คือกรณีที่ราคากลับสวนทางกับที่คาดไว้
แล้วหวนกลับเข้าแนวโน้มเดิม ส่งผลให้คำสั่งที่เปิดในช่วง False Breakout กลับขาดทุน
ชมคลิป : กดที่นี่
กดติดตามช่องใหม่ของผมด้วยนะครับ...ออกแนวแชร์ความรู้ วิชาการหน่อยๆนะครับ
ปล.กำลังเริ่มทำนะครับ ยังไม่โปรเฟสชั่นนอลมาก...จะพัฒนาไปเรื่อยๆครับ
YouTube
False Break-out คืออะไร พร้อมวิธีลดความเสี่ยง ✅
False Breakout หรือ Fake Breakout
หมายถึงการที่ราคาทะลุ (Breakout) ออกจากแนวรับ/ต้าน หรือ เส้นแนวโน้ม (Trend Line) ซึ่งโดยปกติ มักจะเป็นสัญญาณให้ส่งคำสั่งซื้อหรือขาย เพราะกราฟราคาที่ได้ Breakout ออกมาแล้ว มักจะเคลื่อนที่ต่อในแนวโน้มเดิม อย่างไรก็ตาม การ…
หมายถึงการที่ราคาทะลุ (Breakout) ออกจากแนวรับ/ต้าน หรือ เส้นแนวโน้ม (Trend Line) ซึ่งโดยปกติ มักจะเป็นสัญญาณให้ส่งคำสั่งซื้อหรือขาย เพราะกราฟราคาที่ได้ Breakout ออกมาแล้ว มักจะเคลื่อนที่ต่อในแนวโน้มเดิม อย่างไรก็ตาม การ…
ข่าวต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง:
- ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียเผยว่า ยูเครนยังไม่ตอบรับข้อเสนอของปูตินในการเจรจาสันติภาพ
- ปูตินประกาศหยุดยิง 3 วัน (8-10 พ.ค.) เนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปีชัยชนะของโซเวียตรัสเซียในสงครามโลก
- ตลาดจับตาแนวโน้มภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งส่งผลต่อความเสี่ยงในฝั่ง EUR/USD
---------
Trading Note: EUR/USD
BUY : 1.13747
-----
เหตุผลในการเข้าเทรด:
- ราคาเบรกแนวต้านขึ้นไปแล้ว มีการ ย่อตัวกลับมายืนเหนือ EMA200 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ
- มองว่าแนวโน้ม ยังเป็นขาขึ้น มีโอกาสไปต่อ จึงเข้าสู่สถานะ BUY
- ใช้รูปแบบ Scalping ในกรอบเวลา H1 โดยเน้นจุดเข้าออกตามแนวรับ-แนวต้าน
--------
กลยุทธ์:
- ใช้แนวรับเดิมในกรอบไซด์เวย์เป็นจุดเข้า
- ตั้งเป้าหมายกำไร 200 จุด
- เมื่อกำไรถึง 100 จุด ให้ตั้ง Trailing Stop (TSL) เพื่อปกป้องกำไร
- ใช้ Stop Loss ใกล้แนวรับเพื่อจำกัดความเสี่ยง
---------
RSI:
อยู่ในโซนกลาง ยังไม่มีสัญญาณ Overbought/ Oversold
เน้น จบกำไรรายวัน หรือปิดออเดอร์เร็วขึ้นเมื่อได้กำไรตามที่พอใจ
- ตั้ง TP, SL ใกล้ระดับแนวรับแนวต้านสำคัญใน TF H1 และ H4
- ล็อคกำไรด้วย TSL เมื่อกราฟวิ่งทางที่ต้องการ
คุณคิดว่า EUR/USD จะทะลุ 1.14 ได้หรือไม่?
แชร์ความคิดเห็นหรือแผนการเทรดของคุณในคอมเมนต์!
เริ่มต้นเทรดกับแพลตฟอร์มที่มั่นคงและปลอดภัย:
[เปิดบัญชี Olymp Trade ที่นี่](https://olymp.gl/DYxYx)
#EURUSD #forex #วิเคราะห์กราฟ #Scalping #เทรดข่าว #Breakout
Please open Telegram to view this post
VIEW IN TELEGRAM