TraderTanClub [ห้องเปิด]
11.4K subscribers
9.51K photos
529 videos
2 files
11.1K links
ห้องนี้คือห้องเปิด สำหรับการประชาสัมพันธ์ และแจ้งข่าวสารต่างๆ หากใครต้องการเข้า ห้องปิด ได้ฟรี หรือมีคำถามใดๆ ที่เกี่ยวกับ การเทรด สามารถส่งข้อความ แจ้งมาหาผม ได้โดยตรงที่ telegram ของผม @tantrader
Download Telegram
#News #Update

นายฮิโรกิ โทโทกิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินของโซนี่กรุ๊ป คอร์ป เปิดเผยในเมื่อวานนี้ว่า

ทางบริษัทกำลังพิจารณาร่วมมือกับบริษัทไต้หวัน 🇹🇼 เซมิคอนดัคเตอร์ แมนูแฟคเจอริง โค (TSMC)

เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ในญี่ปุ่น 🇯🇵

"การพัฒนาระบบจัดหาเซมิคอนดักเตอร์ได้อย่างสม่ำเสมอนับเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง

และการตั้งโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ก็อาจเป็นทางออกของปัญหานี้" นายโทโทกิกล่าว

ก่อนหน้านี้บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดัคเตอร์ ประกาศว่า

บริษัทมีแผนจะสร้างโรงงานใหม่ในญี่ปุ่นในปี 2565 และเริ่มเปิดดำเนินการในปี 2567

โดยการประกาศดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากมีรายงานว่า

รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาสนับสนุนทางการเงินแก่ TSMC 💸

เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปในจังหวัดคุมาโมโต้ของญี่ปุ่น

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นต้องการสร้างโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ

มาเป็นเวลานานแล้ว ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนชิปคอมพิวเตอร์ทั่วโลก
#News #Update

บริษัทเทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 🚗 สัญชาติสหรัฐ 🇺🇸 เปิดเผยว่า

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาในสิงคโปร์ 🇸🇬 ครองสัดส่วนมากกว่าคู่แข่งรายอื่น

รายงานระบุว่า มูลค่าทางการตลาดของเทสลาในสัปดาห์นี้ทะลุ 1 ล้านล้าน💲

แซงหน้ามูลค่าทางการตลาดของคู่แข่งรายใหญ่ที่สุด 5 รายรวมกัน

ได้แก่ โตโยต้า มอร์เตอร์ คอร์ป, โฟล์คสวาเกน, เดมเลอร์, ฟอร์ด มอเตอร์ และเจเนอรัล มอเตอร์ (GM)

ข้อมูลจากกรมการขนส่งสิงคโปร์ (LTA) ระบุว่า

จำนวนรถยนต์ใหม่ของเทสลาในสิงคโปร์ในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่ามาอยู่ที่ 487 คัน

จากที่มีอยู่เพียง 30 คันในช่วงครึ่งปีแรก

ทั้งนี้ จากกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ของเทสลา

ทำให้บริษัทกลายเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดอันดับที่ 6 ของสิงคโปร์ในเดือนก.ย.

โดยมียอดขายเหนือกว่านิสสัน อาวดี้ และเกีย

ส่วนยอดรถยนต์ของเทสลาที่จดทะเบียนในสิงคโปร์เมื่อเดือนก.ย.นั้น มีอยู่ที่ 314 คัน
#News #Update

ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันศุกร์ (29 ต.ค.)

สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน นำโดยสัญญาข้าวโพด 🌽

ปิดพุ่งขึ้นเกือบ 1% 🔺 ขานรับยอดส่งออกที่แข็งแกร่ง

สัญญาข้าวโพด 🌽 ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.5 เซนต์ หรือ 0.98% ปิดที่ 5.6825💲/บุชเชล

สัญญาข้าวสาลี 🌾 ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.25 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 7.7275💲/บุชเชล

และสัญญาถั่วเหลือง 🍥 ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 3.5 เซนต์ หรือ 0.28% ปิดที่ 12.495💲/บุชเชล

สัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปิดบวกหลังจากกระทรวงเกษตรสหรัฐรายงานว่า

สหรัฐ 🇺🇸 ได้ส่งออกข้าวโพดไปยังเม็กซิโก 🇲🇽 ในปริมาณ 279,415 ตัน

และได้ส่งออกถั่วเหลืองในปริมาณ 132,000 ตันโดยไม่ระบุจุดหมายปลายทาง

อย่างไรก็ดี AgResource ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยในชิคาโกระบุว่า

สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT อาจเข้าสู่ระยะพักฐานในสัปดาห์นี้

เนื่องจากผลผลิตของสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
#News #Update

สัญญาทองแดงตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (29 ต.ค.)

หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ 🇺🇸 ปรับตัวลดลงในเดือนต.ค.

นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงิน💲ยังเป็นป้จจัยลบต่อตลาดทองแดง

สัญญาทองแดงตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.

ลดลง 7.05 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 4.368💲/ปอนด์

และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองแดงปรับตัวลงทั้งสิ้น 2.9%

ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ

ปรับตัวลงสู่ระดับ 71.7 ในเดือนต.ค. จากระดับ 72.8 ในเดือนก.ย.

โดยดัชนีได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และภาวะคอขวดของห่วงโซ่อุปทาน

ดัชนี💲 ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของ💲เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน

เพิ่มขึ้น 0.82% แตะที่ 94.1169 เมื่อวันศุกร์ ซึ่งลดความน่าดึงดูดของทองแดง

เนื่องจากทำให้สัญญาทองแดงซึ่งกำหนดราคาเป็น💲นั้น

มีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น 💷💶💴
#News #Update

บทความบนเว็บไซต์วอกซ์ (Vox) ระบุว่า สหรัฐ 🇺🇸 อาจทำผิดพลาด

ในการเตรียมพร้อมรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 🦠 เหมือนเดิมอีกครั้ง

เนื่องจากรัฐบาลวางแผนงบประมาณด้านสาธารณสุขน้อยเกินไป 💵🔻

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและผู้เชี่ยวชาญภายนอก

ได้เตือนรัฐบาลสหรัฐมาหลายปี ก่อนที่จะเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ว่า

สหรัฐไม่ได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันด้านสาธารณสุขมากพอ ⚕️

โดยบทความบนเว็บไซต์ดังกล่าวชี้ว่า นี่อาจเป็นความเห็นที่ถูกต้อง

เพราะสหรัฐกำลังเสี่ยงที่จะทำผิดพลาดเช่นเดิมเหมือนช่วงที่วิกฤตโควิด-19 เริ่มเกิดขึ้น

เว็บไซต์รายงานว่า กฎหมายบิลด์ แบค เบตเตอร์ (Build Back Better)

จัดสรรงบประมาณรวมราว 1 หมื่นล้าน💲 (ราว 3.32 แสนล้านบาท)

ให้โครงสร้างพื้นฐานและการเตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาดใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า

ซึ่งคณะผู้เชี่ยวชาญคิดว่ายังน้อยกว่าที่จำเป็นอย่างมาก

บทความยังระบุด้วยว่า "คณะผู้เชี่ยวชาญภายนอกมองว่า

ควรมีการจัดสรรงบประมาณสูงถึง 7.5 หมื่นล้าน💲 (ราว 2.49 ล้านล้านบาท) สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน การเตรียมความพร้อม

และการป้องกันด้านสาธารณสุขตลอดช่วง 10 ปีข้างหน้า"
#News #Update

แหล่งข่าวของกลุ่มตาลีบันเปิดเผยว่า นายไฮบาตุลเลาะห์ อัคห์ฮุนด์ซาดา

ผู้นำสูงสุดของกลุ่มตาลีบันได้ปรากฏตัวในที่สาธารณะในเมืองกันดาฮาร์ทางใต้ของอัฟกานิสถาน 🇦🇫

ซึ่งได้สยบข่าวลือที่แพร่สะพัดไปทั่วว่านายอัคห์ฮุนด์ซาดาได้เสียชีวิตแล้ว

นายอัคห์ฮุนด์ซาดาซึ่งเป็นที่รู้จักกันในฐานะผู้นำแห่งศรัทธา หรือ Amir ul Momineen

ไม่ได้ปรากฏตัวในที่สาธารณะมาระยะหนึ่ง แม้หลังจากที่กลุ่มตาลีบันได้เข้ายึดครองอัฟกานิสถาน

ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีข่าวลือเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเขา

ขณะที่กลุ่มตาลีบันได้จัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวในเดือนก.ย.

หลังจากที่กองกำลังที่นำโดยสหรัฐ 🇺🇸 ถอนตัวนั้น นายอัคห์ฮุนด์ซาดาผู้ลึกลับ

ก็ยังคงอยู่ในตำแหน่งผู้นำสูงสุดที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2559 ตามเดิม

โดยเขาเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของกลุ่มตาลีบันนทั้งในด้านการเมือง, ศาสนา และทหาร
#News #Update

นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา อิงค์ ยอมรับในเมื่อวานนี้ว่า

ทางบริษัทยังไม่ได้ลงนามในข้อตกลงกับบริษัทเฮิร์ซ

เพื่อจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า 🚙 จำนวน 100,000 คันแต่อย่างใด

"ผมขอย้ำว่ายังไม่มีการลงนามในสัญญาแต่อย่างใด

โดยเรื่องข้อตกลงกับเฮิร์ซไม่ได้มีผลกระทบต่อสถานะการเงินของเรา" นายมัสก์ระบุ


ทั้งนี้ ราคาหุ้นของเทสลาพุ่งขึ้นกว่า 10% ในวันที่ 25 ต.ค. หลังมีข่าวว่า

บริษัทเฮิร์ซ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถยนต์เช่ารายใหญ่ของโลก 🌐

ได้สั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาจำนวน 100,000 คัน

ส่งผลให้เทสลากลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 ล้านล้าน💲

เช่นเดียวกับแอปเปิล แอมะซอน และไมโครซอฟท์

คำสั่งซื้อดังกล่าวถือเป็นคำสั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าครั้งใหญ่ที่สุด

และจะทำรายได้ให้แก่เทสลาถึง 4.4 พันล้าน💲
#News #Update

สำนักข่าว CNBC รายงานว่า วันนี้ (2 พ.ย.) สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐ (EPA) 🇺🇸

จะเสนอกฎระเบียบเพื่อควบคุมการปล่อยก๊าซมีเทนบริเวณบ่อน้ำมัน 🛢️ และก๊าซหลายแสนแห่งในสหรัฐ ซึ่งถือเป็นการดำเนินการเชิงรุกที่เข้มงวดมากที่สุดใน

การควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นตัวการทำให้โลกร้อน

ทั้งนี้ มาตรการของ EPA จะเพิ่มความเข้มข้นด้านกฎระเบียบต่อบ่อน้ำมันและบ่อก๊าซใหม่

พร้อมออกข้อกำหนดใหม่สำหรับบ่อน้ำมันและก๊าซที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ซึ่งก่อนหน้านี้หลีกเลี่ยงกฎระเบียบด้านก๊าซมีเทน

ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของรัฐบาลสหรัฐระบุว่า

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ จะประกาศข้อเสนอดังกล่าวอย่างเป็นทางการ

ในวันที่ 2 ของการประชุมสุดยอดว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP26)

โครงการริเริ่มด้านก๊าซมีเทนดังกล่าวจะช่วยให้ปธน.ไบเดนสามารถบรรลุเป้าหมาย

ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในประเทศลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2573

และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในกลางศตวรรษ

ข้อเสนอนี้ยังช่วยผลักดันข้อตกลง "Global Methane Pledge" ของสหรัฐ 🇺🇸

และสหภาพยุโรป (EU) 🇪🇺 ซึ่งเป็นข้อตกลงลดการปล่อยก๊าซมีเทน 30% ภายในสิ้นทศวรรษนี้
#News #Update

ราคาทองฟิวเจอร์ดิ่งลงกว่า 20💲 ใกล้หลุดระดับ 1,760💲 ท่ามกลางความวิตกที่ว่า

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) 🏦🇺🇸 จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร

ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมคืนนี้

ณ เวลา 21.28 น.ตามเวลาไทย 🇹🇭 สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange)

ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 26.50💲 หรือ 1.48% สู่ระดับ 1,762.90💲/ออนซ์

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในแถลงการณ์หลังการประชุม

เฟดจะประกาศปรับลดวงเงิน QE เดือนละ 15,000 ล้าน💲 โดยเริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย.

ซึ่งจะทำให้เฟดยุติการทำ QE โดยสิ้นเชิงในกลางปี 2565

ที่ผ่านมา เฟดทำ QE อย่างน้อย 120,000 ล้าน💲/เดือน

โดยเฟดซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 🇺🇸 วงเงิน 80,000 ล้าน💲/เดือน

และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 40,000 ล้าน💲/เดือน
#News #Update

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI 🛢️ ดิ่งลงกว่า 3% หลุดระดับ 81💲ในเมื่อวานนี้ 🔻

หลังจากที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) 🇺🇸 เปิดเผยว่า

สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว 🔺

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังราคาพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้ 🔺

ณ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย 🇹🇭 สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนธ.ค.

ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ร่วงลง 2.96💲 หรือ 3.53% สู่ระดับ 80.95💲/บาร์เรล

ทั้งนี้ EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ 🇺🇸 เพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 300,000 บาร์เรล

สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ 🇺🇸

เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
#News #Update

บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐ ⚕️🇺🇸

เปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3

ขณะที่บริษัทปรับลดคาดการณ์ยอดขายวัคซีนต้านโควิด-19 🦠 ในปีนี้

ทั้งนี้ โมเดอร์นาเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไร 7.70💲/หุ้น ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 9.05💲/หุ้น

นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 4.97 พันล้าน💲 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 6.21 พันล้าน💲

ขณะเดียวกัน โมเดอร์นาคาดการณ์รายได้จากการจำหน่ายวัคซีนต้านโควิด-19 💉

ประจำปีนี้อยู่ในช่วง 15,000-18,000 ล้าน💲 ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ 20,000 ล้าน💲ก่อนหน้านี้
#News #Update

นายอาลี บาเกรี กานี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

และผู้นำการเจรจาด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน 🇮🇷 เปิดเผยว่า

การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า

Joint Comprehensive Plan of Action (JCPOA) จะเริ่มขึ้นอีกครั้งในวันที่ 29 พ.ย.นี้

นายบาเกรี กานี ทวีตว่า "ในระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์ 📞 กับนายเอนริเก โมรา

เราเห็นพ้องที่จะเริ่มการเจรจาในวันที่ 29 พ.ย.นี้ที่กรุงเวียนนา

โดยมีเป้าหมายเพื่อยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่ผิดกฎหมายและไร้มนุษยธรรม"

หลังจากการประชุมระหว่างนายบาเกรี กานี และนายโมรา รองเลขาธิการกระทรวงต่างประเทศยุโรป (EEAS)

ในกรุงเตหะรานและบรัสเซลส์ อิหร่านและสหภาพยุโรป (EU) 🇪🇺

ได้ตกลงที่จะเริ่มการเจรจาอีกครั้งในเดือนพ.ย.นี้

ทั้งนี้ อิหร่านระบุว่า ประเด็นการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร

และการปฏิบัติตามข้อตกลง JCPOA อย่างเต็มรูปแบบจะเป็นวาระหลักของการเจรจาครั้งนี้

ซี่งได้หยุดชะงักไปตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา หลังมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลอิหร่าน
#News #Update

นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา อิงค์ 🚙

ตั้งโพลสอบถามความคิดเห็นกับผู้ติดตามในทวิตเตอร์ราว 62.5 ล้านคนด้วยคำถามที่ว่า

เขาควรขายหุ้นเทสลา 10% จากหุ้นที่ถืออยู่หรือไม่

"ผมขอประกาศว่าผมไม่ได้รับเงินเดือนหรือโบนัสเป็นเงินสดจากที่ใดเลย

ผมมีเพียงหุ้นที่ถืออยู่เท่านั้น ดังนั้นทางเดียวที่ผมจะจ่ายภาษีได้ก็คือการขายหุ้น"

นายมัสก์ประกาศทางทวิตเตอร์ พร้อมกับเสริมว่า "ในระยะหลัง ๆ มานี้

มีการมองว่ากำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงนั้นถือเป็นการหลีกเลี่ยงภาษี

ผมจึงเสนอว่าจะขายหุ้นเทสลา 10% จากที่ผมถืออยู่ทั้งหมด"

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ก่อนหน้านี้นายมัสก์ได้วิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอของพรรคเดโมแครต

ให้มีการปรับขึ้นภาษีกำไรที่ได้จากการลงทุน (Capital gains)

ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการปฏิรูปภาษีที่พุ่งเป้าเรียกเก็บจากชาวอเมริกันที่ร่ำรวย 🤑

โดยกำไรจากการลงทุนในระยาวคือกำไรที่ได้จากการขายทรัพย์สินหลังจากที่ถือครองมาเป็นเวลากว่า 1 ปี

ทั้งนี้ นายมัสก์ยืนยันว่าเขาจะดำเนินการตามผลโพลที่ออกมา ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร
#News #Update

องค์กรสิทธิบัตรยาร่วม (MPP) ⚕️ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ (UN)

เปิดเผยว่า บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาขั้นคืบหน้ากับ MPP

เกี่ยวกับการมอบช่วงสิทธิบัตรการผลิตยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) ซึ่งเป็นยารักษาโรคโควิด-19 🦠

ให้แก่ประเทศต่างๆ เพื่อให้กลุ่มประเทศยากจนสามารถเข้าถึงยาดังกล่าว

ผลการทดลองในระยะที่ 3 สำหรับยาแพ็กซ์โลวิด พบว่า

ยาดังกล่าวสามารถลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-19 🤒

ในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 🏥 หรือเสียชีวิต ☠️ได้ถึง 89%

โดยสูงกว่ายาโมลนูพิราเวียร์ 💊 ของบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค ซึ่งมีประสิทธิภาพเพียง 50%

การดำเนินการมอบช่วงสิทธิบัตรของไฟเซอร์สอดคล้องกับที่เมอร์คเจรจากับ MPP ก่อนหน้านี้

โดยเมอร์คได้มอบช่วงสิทธิบัตรผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยารักษาโรคโควิด-19

ให้แก่ประเทศในกลุ่มรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางจำนวน 105 ประเทศทั่วโลก 🌐

ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศในเอเชียและแอฟริกา

ทั้งนี้ บริษัทที่ต้องการผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ 💊 สามารถยื่นเรื่องต่อ MPP เพื่อขอการอนุมัติ

โดย MPP จะมอบช่วงสิทธิบัตรให้แก่บริษัทที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

และได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานสาธารณสุขภายในประเทศในการผลิตยาดังกล่าว

คาดว่าการมอบช่วงสิทธิบัตรการผลิตยาดังกล่าว จะทำให้ยาโมลนูพิราเวียร์มีราคาถูกลง 🔻

เหลือเพียงคอร์สละ 20💲 หรือราว 650 บาท ขณะที่รัฐบาลสหรัฐ 🇺🇸 ซื้อยาดังกล่าวจากเมอร์ค

ในราคาคอร์สละ 700💲 หรือมากกว่า 23,000 บาท
#News #Update

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) 🔺

โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของ💲 และจากการที่ธนาคารกลางหลายแห่ง

ซึ่งรวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) 🏦🇺🇸 ส่งสัญญาณว่าจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.

เพิ่มขึ้น 11.2💲 หรือ 0.62% ปิดที่ 1,828💲/ออนซ์

ดัชนี💲 ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของ💲เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน

ลดลง 0.29% แตะที่ 94.0503 เมื่อคืนนี้ 🔻

ทั้งนี้ การอ่อนค่าของ💲เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ

เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็น💲นั้น

มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น 💷💶💴

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวล

เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด),

ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) รวมทั้งธนาคารกลางยุโรป (ECB)
#News #Update

นางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รมว.พลังงานสหรัฐ 🇺🇸 กล่าวว่า

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อาจมีการดำเนินมาตรการในสัปดาห์นี้เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน 🔺

"ท่านกำลังพิจารณาเกี่ยวกับทางเลือกต่างๆที่ประธานาธิบดีสหรัฐ 🇺🇸

สามารถดำเนินการได้เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมัน 🛢️ เบนซินมีราคาแพง

โดยท่านอาจทำการประกาศในสัปดาห์นี้" นางแกรนโฮล์มกล่าว

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันว่า ปธน.ไบเดนอาจประกาศระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR)

เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันเบนซินในประเทศ

ปธน.ไบเดนกล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า สหรัฐมีเครื่องมือที่จะรับมือกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูง

หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส

เมินข้อเรียกร้องของสหรัฐที่ต้องการให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตน้ำมันมากกว่า 400,000 บาร์เรล/วัน
#News #Update

กระทรวงกลาโหมของไต้หวัน 🇹🇼 ออกรายงานในเมื่อวานนี้ โดยประเมินว่า

กองทัพจีน 🇨🇳 มีศักยภาพในการปิดล้อมท่าเรือและสนามบินสำคัญ ๆ ของไต้หวันได้

พร้อมระบุว่าจีนเป็นภัยคุกคามทางการทหารขั้น "ร้ายแรง" ต่อไต้หวัน

รายงานฉบับดังกล่าวที่กระทรวงกลาโหมเผยแพร่ทุก 2 ปี ระบุว่า

จีนได้เปิดฉากยุทธการ "พื้นที่สีเทา" โดยอ้างถึงการที่เครื่องบินรบจีนจำนวน 554 ลำ "รุกล้ำ"

เข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) เหนือน่านน้ำทางตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวัน

ระหว่างเดือนก.ย.ปีที่แล้วถึงปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า

นักวิเคราะห์ทางการทหารมองว่ายุทธวิธีดังกล่าวมุ่งกำราบไต้หวันโดยการทำให้อ่อนล้า

ทางด้านประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน กล่าวว่า

ไต้หวันเป็นประเทศเอกราชอยู่แล้ว พร้อมปฏิญาณว่าจะปกป้องเสรีภาพและประชาธิปไตยของไต้หวัน
#News #Update

ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT วันที่ 8 พ.ย สัญญาธัญพืชปิดไร้ทิศทาง

โดยข้าวโพด 🌽 และถั่วเหลือง 🍥 ปรับตัวลง 🔻 ขณะข้าวสาลี 🌾 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 🔺

สัญญาข้าวโพด 🌽 ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.5 เซนต์ หรือ 0.27% ปิดที่ 5.515💲/บุชเชล 🔻

สัญญาข้าวสาลี 🌾 ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.5 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 7.68💲/บุชเชล 🔺

และสัญญาถั่วเหลือง 🍥 ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 17 เซนต์ หรือ 1.41% ปิดที่ 11.885💲/บุชเชล 🔻

AgResource ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยในชิคาโกระบุว่า สัญญาข้าวสาลี

ได้รับแรงหนุนจากสต๊อกธัญพืชที่ตึงตัวทั่วโลก 🌐

ขณะถั่วเหลืองร่วงลงก่อนที่กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) 🇺🇸 จะเปิดเผยรายงานผลผลิต

ส่วนสัญญาข้าวโพดยังไม่มีปัจจัยชี้นำที่ชัดเจน

ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่ารายงานของ USDA ประจำเดือนพ.ย.จะออกมาซบเซาลง
#News #Update

คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวัคซีน 💉 ของเยอรมนี 🇩🇪 หรือ STIKO ออกคำแนะนำในเมื่อวานนี้ (10 พ.ย.) ว่า

ให้ประชาชนอายุต่ำกว่า 30 ปีรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 🦠 ของบริษัทไบออนเทค/ไฟเซอร์เท่านั้น

เนื่องจากพบการเกิดภาวะหัวใจอักเสบในกลุ่มคนหนุ่มสาวต่ำกว่า

เมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นา

นอกจากนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยว่า STIKO ยังได้แนะนำให้สตรีตั้งครรภ์รับวัคซีน

ของไบออนเทค/ไฟเซอร์เท่านั้นเช่นเดียวกันโดยไม่กำหนดช่วงอายุ

ขณะที่ก่อนหน้านี้ หน่วยงานด้านสาธารณสุขแห่งชาติของฝรั่งเศส (HAS) 🇫🇷

เพิ่งแนะนำให้ประชาชนที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 🦠

ของไบออนเทค/ไฟเซอร์แทนการฉีดวัคซีนของโมเดอร์นา เนื่องจากเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว

วัคซีนของโมเดอร์นามีความเสี่ยงเกี่ยวกับปัญหาโรคหัวใจมากกว่าวัคซีนของไฟเซอร์

การให้คำแนะนำดังกล่าวมีขึ้น หลังจากหน่วยงานด้านกำกับดูแลของหลายประเทศ

ซึ่งรวมถึงแคนาดา 🇨🇦 ฟินแลนด์ 🇫🇮 และสวีเดน 🇸🇪 ได้ออกคำเตือนว่าวัคซีน Spikevax ของบริษัทโมเดอร์นา มีความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคหัวใจในกลุ่มประชาชนที่มีอายุน้อย
#News #Update

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ 🇺🇸 ประกาศขยายเวลา

บังคับใช้คำสั่งห้ามชาวอเมริกันลงทุนในบริษัทจีนซึ่งสหรัฐเชื่อว่าถูกกองทัพจีนควบคุมออก

ไปอีก 1 ปี โดยระบุว่าจีนกำลังขยายนิคมอุตสาหกรรมทางทหารด้วยการบังคับ

ให้บริษัทต่าง ๆ ของจีนสนับสนุนกิจกรรมด้านการทหารและข่าวกรอง

ปธน.ไบเดนระบุเสริมว่า นิคมอุตสาหกรรมทางทหารดังกล่าวยังคงเป็นภัยคุกคามที่สำคัญ

ต่อความมั่นคง นโยบายต่างประเทศ และเศรษฐกิจของสหรัฐ

สำนักข่าวเอ็นเอชเคของญี่ปุ่น 🇯🇵 รายงานว่า คำสั่งห้ามดังกล่าวมีขึ้นในสมัย

ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว

โดยครอบคลุมบริษัทจีนกว่า 50 แห่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างหัวเว่ย

ไชน่า โมบายล์ คอมมิวนิเคชันส์ และบริษัทของรัฐบาลจีนที่เกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาอาวุธและอวกาศ

ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา คณะทำงานของปธน.ไบเดนได้เพิ่มบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีกล้องวงจรปิด

ในรายชื่อบริษัทจีนที่ถูกห้ามลงทุน เนื่องจากบริษัทเหล่านั้นทำให้เกิดการปราบปราม

หรือการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง