เคล็ดลับการเทรด: การใช้ **Trendline** เพื่อระบุทิศทางและจุดกลับตัวของตลาด
1. ทำความเข้าใจประเภทของวรมี:
ลากเชื่อมจุดต่ำสุด 2 จุดขึ้นไป ที่มีการยกตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยที่เส้นไม่ตัดผ่านแท่งเทียน เส้นนี้ทำหน้าที่เป็นแนวรับ (Support) ราคาที่กำลังเพิ่มขึ้น
ลากเชื่อมจุดสูงสุด 2 จุดขึ้นไป ที่มีการทำจุดต่ำลงเรื่อยๆ โดยที่เส้นไม่ตัดผ่านแท่งเทียน เส้นนี้ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน (Resistance) ราคาที่กำลังลดลง
เมื่อราคาเคลื่อนที่ในกรอบแคบๆ โดยไม่มีทิศทางที่ชัดเจน Trendline อาจไม่สามารถลากได้ หรือลากได้แต่ไม่มีนัยสำคัญเท่าในตลาดมีแนวโน้ม
2. หลักการลาก Trendline ที่ถูกต้อง
* สัมผัสอย่างน้อย 2 จุด: Trendline ที่ดีควรสัมผัสจุดสูงสุด (สำหรับขาลง) หรือจุดต่ำสุด (สำหรับขาขึ้น) อย่างน้อย 2 จุด ยิ่งสัมผัสหลายจุดยิ่งมีความน่าเชื่อถือ
* หลีกเลี่ยงการตัดผ่านตัวแท่งเทียน: Trendline ที่มีประสิทธิภาพควรรองรับหรือต้านทานราคาโดยไม่ตัดผ่านตัวแท่งเทียน (อาจมีไส้เทียนล้ำไปได้เล็กน้อย)
* ความชันที่สมเหตุสมผล: เส้นควรมีความชันที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ชันเกินไปจนราคาไม่สามารถเคลื่อนที่ตามได้ หรือราบเรียบเกินไปจนไม่สะท้อนแนวโน้ม
* กรอบเวลา (Timeframe): Trendline ในกรอบเวลาที่ใหญ่ขึ้น (H4, Daily, Weekly**) มักจะมีความแข็งแกร่งและน่าเชื่อถือมากกว่า **Trendline ในกรอบเวลาที่เล็กกว่า
3.การใช้ Trendline
* ในแนวโน้มขาขึ้น: เมื่อราคาย่อตัวลงมาทดสอบ Uptrend Line และมีสัญญาณการกลับตัวขึ้น (เช่น แท่งเทียน Pin Bar, Engulfing**) เป็นจุดที่น่าสนใจในการเข้า **BUY
* ในแนวโน้มขาลง: เมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปทดสอบ Downtrend Line และมีสัญญาณการกลับตัวลง (เช่น แท่งเทียน Bearish Engulfing**) เป็นจุดที่น่าสนใจในการเข้า **SELL
* หาก Trendline ถูกทะลุ (Breakout) อย่างมีนัยสำคัญ อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม หรือแนวโน้มอ่อนแรง ซึ่งเป็นจุดที่ควรพิจารณาปิดทำกำไร หรือตั้ง SL
4. ข้อควรระวัง
เริ่มต้นเทรดกับแพลตฟอร์มที่มั่นคงและปลอดภัย:
[เปิดบัญชี Olymp Trade ที่นี่](https://olymp.gl/DYxYx)#Trendline #Education #Forex
Please open Telegram to view this post
VIEW IN TELEGRAM