#Education

การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research: PAR) เป็นกระบวนการที่ผสานการวิจัยเข้ากับการปฏิบัติ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาสังคม

แนวทางนี้มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของบุคคลหรือองค์กร ผ่านการร่วมมือและการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
ไทยโจ้

ในบริบทของการพัฒนาระบบการเทรด SSMFS (Saratid Sakulkoo Multi Factor System) และโครงการ "The $100 Start Up" ผู้วิจัยได้นำหลักการของ PAR มาประยุกต์ใช้ โดยเน้นการลงมือปฏิบัติจริง หรือที่เรียกว่า "เฮ็ดโลด" (HED-LOD Action Research) ซึ่งเป็นการวิจัยที่มุ่งเน้นการปฏิบัติทันที เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม

การวิจัยเชิงปฏิบัติการแนว "เฮ็ดโลด" นี้ ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากประสบการณ์ของผู้วิจัยที่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย และมีความสนใจในงานวิจัยภาคสนาม โดยนำแนวคิดจากการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาระบบการเทรดและการลงทุน

จากการดำเนินงานวิจัยและพัฒนาระบบเทรด SSMFS และโครงการ "The $100 Start Up" ตลอดระยะเวลา 3 ปี (2565-2567) ผู้วิจัยได้สรุปผลการวิจัยและเตรียมที่จะ "วางมือ" เพื่อกลับไปใช้ชีวิตแบบเนิบช้า (Slow Life) ตามสไตล์ของตนเอง

การวิจัยเชิงปฏิบัติการแนว "เฮ็ดโลด" นี้ เป็นการผสานระหว่างการวิจัยและการปฏิบัติจริง โดยเน้นการลงมือทำทันที เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในชีวิตประจำวัน

Credit : Saratid Sakulkoo
@kuekul | เรียบเรียง

#Education

การฝึกฝนจิตใจให้ละทิ้งความเพลิดเพลินหรือ "นันทิ" เป็นหลักธรรมสำคัญในพุทธศาสนา ซึ่งมีความเกี่ยวข้องอย่างยิ่งกับวิถีชีวิตของเทรดเดอร์ เนื่องจากการเทรดมักนำพาให้เกิดความเพลิดเพลินจากกำไรหรือความทุกข์จากการขาดทุน การฝึกละนันทิจึงเป็นการสร้างสมดุลทางจิตใจ ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจอย่างมีสติและไม่ถูกครอบงำด้วยอารมณ์

การละนันทิหมายถึงการปล่อยวางความยินดีหรือความเพลิดเพลินที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นการฝึกจิตให้ไม่ยึดติดกับความสุขหรือความทุกข์ เพื่อให้จิตใจสงบและเป็นอิสระ สำหรับเทรดเดอร์ การฝึกละนันทิสามารถทำได้โดยการมีสติรู้ตัวในทุกขณะ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่กำลังเทรดหรือพักผ่อน การฝึกสติจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถรับรู้และปล่อยวางความยินดีหรือความทุกข์ที่เกิดขึ้นจากการเทรด ทำให้จิตใจสงบและพร้อมที่จะตัดสินใจอย่างมีเหตุผล

นอกจากนี้ การฝึกวินัยในการเทรดก็เป็นสิ่งสำคัญ การมีวินัยจะช่วยให้เทรดเดอร์ปฏิบัติตามแผนการเทรดที่วางไว้ ไม่ถูกครอบงำด้วยอารมณ์หรือความยินดีที่เกิดขึ้นจากการเทรด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรด

ดังนั้น การฝึกละนันทิและการมีวินัยในการเทรดจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถรักษาสมดุลทางจิตใจ ตัดสินใจอย่างมีสติ และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรด

#Education

การเทรดในตลาดฟอเร็กซ์ (Forex) เป็นกิจกรรมที่ต้องการความรู้ ความเข้าใจ และการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถปรับตัวและพัฒนากลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ บทความนี้จะนำเสนอประสบการณ์และข้อค้นพบจากการวิจัยเชิงปฏิบัติการของผู้เขียนที่ได้พัฒนาระบบเทรด SSMFS 4.0 Asia Range และการประยุกต์ใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ ในการเทรด USD/JPY

การพัฒนาระบบเทรด SSMFS 4.0 Asia Range

ผู้เขียนได้เริ่มต้นการวิจัยและพัฒนาระบบเทรดตั้งแต่ปี 2565 โดยมุ่งเน้นการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับ Pivot Point ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุแนวรับและแนวต้านในกราฟราคา

จากการศึกษาและเก็บข้อมูลจากคู่เงิน 28 คู่ ผู้เขียนได้พัฒนากลยุทธ์ "Singto PIVOT Strategy" เพื่อเป็นเกียรติแก่ อ. สิงโต ผู้สอนวิชาเทรดให้กับผู้เขียน กลยุทธ์นี้ได้ถูกพัฒนาต่อเนื่องจนกลายเป็นระบบเทรด "The ZOPP" (The Zen of Pivot Plus) ซึ่งผสานหลักการของเซน (Zen) เข้ากับการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยแนวคิดและทฤษฎีต่าง ๆ

ในระหว่างการพัฒนา ผู้เขียนได้ฝึกฝนและเรียนรู้จากอาจารย์และโค้ชหลายท่าน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น Uhas Thailand, TAT Academy, MTA, Bravo, Trader Overseas, FOREX TV, อ. Keren Foo, อ. Kathy Lien, Rayner Tou, Brad Gok (The Trading Greek) และ อ. Tan Trader โดยเฉพาะการนำหลักการของ "มาร์ติงเกล" (Martingale) มาประยุกต์ใช้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เพิ่มขนาดการลงทุนเป็นสองเท่าหลังจากการขาดทุนในแต่ละครั้ง เพื่อคืนทุนและทำกำไรเมื่อการเทรดครั้งหนึ่งประสบความสำเร็จ


จากการผสานกลยุทธ์ต่าง ๆ และการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ระบบเทรด SSMFS (Saratid Sakulkoo Multi Factor System) ได้ถูกพัฒนามาจนถึงเวอร์ชัน 4.0 ซึ่งมุ่งเน้นการเทรดในช่วงตลาดเอเชีย (Asia Range) ที่มักมีการเคลื่อนไหวของราคาที่เป็น Sideway หรือเคลื่อนที่ในกรอบแคบ ๆ

การประยุกต์ใช้กลยุทธ์ในการเทรด USD/JPY

ในการเทรดคู่เงิน USD/JPY ผู้เขียนได้ใช้กลยุทธ์ "Scalping Martingale" (SCM) ซึ่งเป็นการผสานเทคนิคการเทรดระยะสั้น (Scalping) กับกลยุทธ์มาร์ติงเกล โดยใช้กรอบเวลา M5-M15 และปรับขนาดล็อตตามสภาวะตลาด การเทรดในลักษณะนี้ต้องการการฝึกฝนและความชำนาญในการตัดสินใจ เพื่อให้สามารถทำกำไรได้แม้ในสภาวะตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ

นอกจากนี้ ผู้เขียนยังได้ศึกษาและสังเกตพฤติกรรมของแท่งเทียนที่เรียงตัวเป็นรูปสามเหลี่ยม (Inside Triangle) ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการสะสมพลังงานก่อนการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ การสังเกตและวิเคราะห์รูปแบบนี้ช่วยให้ผู้เขียนสามารถวางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การฝึกฝนและการพัฒนาตนเอง

ตลอดระยะเวลาการวิจัยและพัฒนาระบบเทรด ผู้เขียนได้ฝึกฝนตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยตื่นตี 4 ทุกวันเพื่อสังเกตแท่งเทียนแรกของตลาดเอเชีย และเก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์โครงสร้างตลาด (Market Structure) และสภาวะตลาด (Market Sentiment) จากการเก็บข้อมูลพบว่า 80% ของกราฟเป็น Sideway และมีเพียง 20% ที่เป็น Trend การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผู้เขียนสามารถพัฒนากลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดที่แตกต่างกันได้

การบริหารจัดการความเสี่ยงและจิตวิทยาการเทรด

ผู้เขียนให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยง โดยการตั้งจุดขาดทุน (Stop Loss) และการถอนกำไรทันทีเมื่อได้ตามเป้าหมาย เพื่อป้องกันการสูญเสียที่ไม่จำเป็น นอกจากนี้ การฝึกฝนจิตใจให้สามารถ "ละนันทิ" หรือความเพลินในการเทรด เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้เขียนสามารถควบคุมอารมณ์และตัดสินใจได้อย่างมีสติ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์กำไรหรือขาดทุน

สรุป

การพัฒนาระบบเทรด SSMFS 4.0 Asia Range และการประยุกต์ใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ ในการเทรด USD/JPY เป็นผลจากการวิจัยและฝึกฝนอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา การผสานความรู้จากหลายสำนักและการปรับใช้กลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด ช่วยให้ผู้เขียนสามารถสร้างระบบเทรดที่มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสไตล์การเทรดของตนเอง อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการความเสี่ยงและการฝึกฝนจิตใจยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การเทรดประสบความสำเร็จในระยะยาว

Credit : Saratid Sakulkoo
@kuekul | เรียบเรียง

#Education

การ "อาบป่า" หรือที่เรียกว่า "ชินรินโยคุ" (Shinrin-yoku) ในภาษาญี่ปุ่น หมายถึงการใช้เวลาอยู่ในป่าเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศธรรมชาติผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า เช่น การมองเห็น ฟังเสียง สูดกลิ่น สัมผัส และรู้สึกถึงบรรยากาศรอบตัว แนวคิดนี้เกิดขึ้นในญี่ปุ่นช่วงปี 1980 เพื่อเป็นวิธีบำบัดความเครียดและส่งเสริมสุขภาพจิต

การอาบป่ามีประโยชน์หลายประการต่อสุขภาพกายและจิตใจ การศึกษาพบว่าการใช้เวลาในธรรมชาติช่วยลดระดับความเครียด ปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ เพิ่มสมาธิ และส่งเสริมอารมณ์ที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ การอาบป่ายังช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและลดความดันโลหิต

การปฏิบัติการอาบป่าไม่จำเป็นต้องเดินเข้าป่าลึก แม้แต่การใช้เวลาในสวนสาธารณะที่มีต้นไม้ใหญ่หรือพื้นที่สีเขียวใกล้บ้านก็สามารถสร้างประสบการณ์อาบป่าได้ สิ่งสำคัญคือการมีสติและเปิดรับประสบการณ์ผ่านประสาทสัมผัสทั้งหมด เช่น การถอดรองเท้าเดินบนหญ้า ฟังเสียงนกร้อง สูดกลิ่นดิน และสัมผัสเปลือกไม้

การอาบป่าไม่เพียงส่งผลดีต่อสุขภาพส่วนบุคคล แต่ยังส่งเสริมความยั่งยืนและกระตุ้นจิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อม เมื่อผู้คนตระหนักถึงคุณค่าของป่าไม้ พวกเขามีแนวโน้มที่จะสนับสนุนการอนุรักษ์และปกป้องธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ การอาบป่ายังสามารถเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน

ดังนั้น การอาบป่าเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูสุขภาพกายและจิตใจ พร้อมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีกับธรรมชาติและสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

#Education

การเทรดแบบ "Scalping Martingale" (SCM) เป็นการผสมผสานระหว่างกลยุทธ์การเทรดระยะสั้นที่เรียกว่า "Scalping" กับกลยุทธ์การเพิ่มขนาดการลงทุนที่เรียกว่า "Martingale" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาดการเงิน

Scalping เป็นกลยุทธ์การเทรดที่มุ่งหวังทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่มีขนาดเล็กในช่วงเวลาสั้น ๆ โดยเทรดเดอร์จะเปิดและปิดสถานะการซื้อขายภายในไม่กี่วินาทีหรือไม่กี่นาที เพื่อสะสมกำไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง

Martingale เป็นกลยุทธ์การบริหารเงินที่เพิ่มขนาดการลงทุนเป็นสองเท่าหลังจากการขาดทุนแต่ละครั้ง โดยมีแนวคิดว่าการชนะครั้งเดียวจะครอบคลุมการขาดทุนทั้งหมดก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากหากเกิดการขาดทุนต่อเนื่อง ขนาดการลงทุนจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

การรวมกลยุทธ์ทั้งสองนี้เป็น "Scalping Martingale" หมายถึงการใช้เทคนิคการเทรดระยะสั้นเพื่อทำกำไรเล็ก ๆ น้อย ๆ และเมื่อเกิดการขาดทุน จะเพิ่มขนาดการลงทุนตามหลักการของ Martingale เพื่อหวังว่าจะครอบคลุมการขาดทุนและทำกำไรเมื่อการเทรดกลับมาชนะ อย่างไรก็ตาม การใช้กลยุทธ์นี้ต้องการการบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวดและความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับตลาด เนื่องจากความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขนาดการลงทุนอย่างรวดเร็ว

ในกรณีที่กล่าวถึง การใช้ SCM ในการเทรด USD/JPY โดยรอจังหวะ Pull Back และวางคำสั่งขาย (Sell) เมื่อราคาย่อตัวขึ้นมาแตะระดับที่กำหนด เป็นการประยุกต์ใช้กลยุทธ์นี้เพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงสั้น ๆ อย่างไรก็ตาม การ "ขายหมู" หรือการปิดสถานะเพื่อทำกำไรเล็กน้อยก่อนที่ราคาจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คาดหวัง อาจเกิดขึ้นได้หากไม่มีการวางแผนและตัดสินใจที่ดี

ดังนั้น การใช้กลยุทธ์ SCM ต้องการความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับตลาด การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แม่นยำ และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

Credit : Saratid Sakulkoo
@kuekul | เรียบเรียง

สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2567 เช้านี้ได้

#Education

การทดสอบระบบเทรด (Forward Test) เป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนากลยุทธ์การซื้อขาย โดยเป็นการทดลองใช้ระบบในสภาวะตลาดจริง เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความเสถียรของระบบก่อนนำไปใช้จริง

ในกรณีของระบบเทรด SSMFS (Saratid Sakulkoo Multi Factor System) ได้มีการพัฒนาตั้งแต่เวอร์ชัน 1.0 จนถึงเวอร์ชัน 5.0 โดยมุ่งเน้นการเทรดคู่เงิน USD/JPY ผ่านการทดสอบ Forward Test ด้วยบัญชีทดลองมูลค่า $10,000 ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงธันวาคม 2567

ในเวอร์ชัน 3.0 ระบบใช้กลยุทธ์มาร์ติงเกล (Martingale) เพื่อปรับขนาดล็อต โดยเริ่มจาก 2-3-5-10 ล็อตต่อชุด และส่วนใหญ่ใช้คำสั่ง Pending Orders ผลลัพธ์ที่ได้มีอัตราชนะสูงถึง 90-95% แต่มีอัตราผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Risk-Reward Ratio) ต่ำ เนื่องจากเป็นการเทรดระยะสั้น (Scalping)

ต่อมาในเวอร์ชัน 4.0 ได้มุ่งเน้นการวิเคราะห์พิสัยของตลาดเอเชีย (Asia Session) ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อทดสอบกับตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก พบว่าความผันผวนสูงและมีแนวโน้มที่ชัดเจน ทำให้ระบบไม่สามารถปรับตัวได้ดี จึงหยุดการทดสอบในตลาดเหล่านั้นและกลับมาโฟกัสที่ตลาดเอเชีย

ในเวอร์ชัน 5.0 ได้เพิ่มความละเอียดในการวิเคราะห์ โดยใช้การวิเคราะห์จากกรอบเวลาหลายระดับ (Top-down Analysis) ตั้งแต่ Day, H4, H1, M15, และ M5 เพื่อระบุขอบเขตการเทรดที่ชัดเจน และใช้ทฤษฎี Price Action และ Chart Patterns ในการตัดสินใจ ส่งผลให้การบริหารความเสี่ยงดีขึ้น และลดความกลัวการพลาดโอกาส (FOMO)

สรุปแล้ว การพัฒนาระบบเทรด SSMFS ตั้งแต่เวอร์ชัน 3.0 ถึง 5.0 แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการปรับตัว (Flexibility) การเรียนรู้ตลอดเวลา (Continuous Learning) และการประยุกต์ใช้ความรู้ (Application) รวมถึงการตัดสินใจที่มั่นใจ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาระบบเทรดที่มีประสิทธิภาพ

Credit : Saratid Sakulkoo
@kuekul | เรียบเรียง

#Education

การศึกษาแบบบูรณาการที่ผสมผสานการวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียน (Chart Patterns & Candlestick Patterns) เข้ากับกระบวนการจิตตปัญญาศึกษา (Contemplative Education) เป็นแนวทางที่น่าสนใจในการพัฒนาความเข้าใจทั้งด้านเทคนิคและจิตใจของผู้เรียน

จิตตปัญญาศึกษา คือ การศึกษาที่มุ่งเน้นการเข้าใจโลกภายในของตนเอง ผ่านการใคร่ครวญและสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ ความคิด และอารมณ์ เพื่อก่อให้เกิดความสุข อิสระ และความรัก

การนำแนวคิดนี้มาประยุกต์ใช้กับการศึกษารูปแบบแท่งเทียน ช่วยให้ผู้เรียนไม่เพียงแต่เข้าใจข้อมูลทางเทคนิค แต่ยังสามารถเชื่อมโยงกับความรู้สึกและประสบการณ์ภายในตนเองได้ การฝึกฝนด้วยวิธีนี้ ช่วยเสริมสร้างความตระหนักรู้ในตนเอง และพัฒนาทักษะการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

การผสมผสานนี้ยังสอดคล้องกับแนวคิดในบทเพลง "You've Got A Friend" ที่สื่อถึงความสัมพันธ์และการสนับสนุนระหว่างกัน เนื้อเพลงกล่าวถึงการมีเพื่อนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้าง ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใดหรือเผชิญกับปัญหาใดก็ตาม

การเรียนรู้แบบบูรณาการนี้ ช่วยให้ผู้เรียนเห็นความเชื่อมโยงระหว่างตนเองกับผู้อื่น และสรรพสิ่งรอบตัว

ดังนั้น การศึกษาแบบบูรณาการที่รวมการวิเคราะห์แท่งเทียนเข้ากับจิตตปัญญาศึกษา ไม่เพียงแต่พัฒนาทักษะทางเทคนิค แต่ยังส่งเสริมความเข้าใจในตนเองและความสัมพันธ์กับผู้อื่น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนามนุษย์อย่างสมดุลและยั่งยืน

Credit : Saratid Sakulkoo
@kuekul | เรียบเรียง

#Education

การมีวินัยในการเทรดเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เทรดเดอร์ประสบความสำเร็จในตลาดการเงิน วินัยหมายถึงการปฏิบัติตามกฎและแผนการเทรดที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร อย่างไรก็ตาม การสร้างวินัยไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยความพยายามและการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง

จากประสบการณ์ของกลุ่ม "ผู้เฒ่าสูงวัย หัวใจนักเทรดขอนแก่น" พบว่าการขาดวินัยในการเทรดนำไปสู่ความล้มเหลว เช่น การเทรดได้ดีในช่วงแรก แต่พลาดพลั้งในภายหลังเนื่องจากขาดการควบคุมอารมณ์ การขาดวินัยอาจเกิดจากการไม่ปฏิบัติตามแผนการเทรดที่วางไว้ หรือการไม่ยอมรับความผิดพลาดและพยายามแก้แค้นตลาด

เพื่อสร้างวินัยในการเทรด ควรเริ่มจากการกำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด การทำบันทึกการเทรดเพื่อวิเคราะห์ข้อผิดพลาดและปรับปรุงตนเองเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างวินัย นอกจากนี้ การฝึกฝนจิตใจผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การทำสมาธิ การออกกำลังกาย หรือการทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย จะช่วยให้เทรดเดอร์มีสติและควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น

การยอมรับความผิดพลาดและเรียนรู้จากมันเป็นสิ่งสำคัญ การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและการมีวินัยจะนำพาเทรดเดอร์ไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว ดังที่สมาชิกกลุ่มได้กล่าวว่า "เอาที่ถนัด ของแต่ละคน จะฝึกแบบไหนอย่างไร ตามจริตนิสัย แต่! ขอให้ 'ยอม' ให้เป็น"

สุดท้ายนี้ การมีวินัยในการเทรดไม่เพียงแต่ช่วยให้เทรดเดอร์ประสบความสำเร็จในตลาดการเงิน แต่ยังส่งผลดีต่อชีวิตประจำวันด้วย การฝึกฝนและพัฒนาวินัยอย่างต่อเนื่องจะเป็นกุญแจสำคัญที่นำพาไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

Credit : Saratid Sakulkoo
@kuekul | เรียบเรียง